เสียงแห่งความเร็วของ สติงค์ เอเนอร์จี้ เครื่องดื่มชูกำลังจาก เป๊ปซี่โค ซิ่งสู่สนามแข่งขัน Formula 1
กรุงเทพ – 29 พฤษภาคม 2568 – สติงค์ เอเนอร์จี้ (Sting Energy®) เครื่องดื่มชูกำลังสุดตื๊ดจาก เป๊ปซี่โค ก้าวเข้าสู่โลกแห่งความเร็วของการแข่งขันฟอร์มูล่าวัน (Formula 1) อย่างเป็นทางการในฐานะพันธมิตรเครื่องดื่มชูกำลัง ความร่วมมืออย่างเป็นทางการครั้งนี้มีจุดเริ่มต้นจากเสียงที่กลายเป็นกระแสไวรัลในสนามแข่งฟอร์มูล่าวัน จนสร้างความสงสัยให้แฟนๆ ทั่วโลก ก่อนจะมีการประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการ เสียงดังกล่าวได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือครั้งนี้ และได้ขยายจากสนามแข่งสู่หน้าจอผู้ชมทั่วโลก
ในกีฬาระดับโลกอย่างฟอร์มูล่าวัน ที่เหล่าแฟนๆ ต่างหลงใหลกับทุกๆ รายละเอียด สติงค์ เอเนอร์จี้ จึงได้หยิบเอาองค์ประกอบที่เป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นที่สุดมาใช้ นั่นคือ ‘เสียง’ โดยเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 ดีเจชื่อดังระดับโลกอย่าง อาร์มิน ฟาน บูเรน (Armin van Buuren) ได้โพสต์วิดีโอที่เผยให้เห็นการค้นพบสุดเซอร์ไพรส์ของเสียง “สติงงงค์” ที่ดังก้องอยู่ในเสียงคำรามของเครื่องยนต์ F1 ขณะที่เขากำลังแยกเลเยอร์ชั้นเสียงจากคลิปการแข่งขัน อาร์มิน สังเกตเห็นว่าโทนเสียงของเครื่องยนต์มีความคล้ายกับซาวด์ที่เขาใช้ในเพลงอย่างน่าประหลาดใจ โพสต์ดังกล่าวจุดประกายความสงสัยไปทั่วโลก แฟนๆ ครีเอเตอร์ ไปจนถึงตำนานนักแข่ง F1 ต่างพูดถึงประเด็นนี้กันอย่างคึกคัก และนั่นคือจุดที่ สติงค์ เอเนอร์จี้ ปรากฏตัว ไม่ใช่ในฐานะผู้เล่นหน้าเดิมในสนามฟอร์มูล่าวัน แต่เป็นพลังใหม่ที่กล้าท้าทายและพร้อมสร้างปรากฏการณ์บนสนามแข่ง
เจนสัน บัตตัน ตำนานแห่งวงการฟอร์มูล่าวัน และ คุช ไมนี ผู้ชนะการแข่งขัน F2 โมนาโกกรังด์ปรีซ์ ประจำปี 2568 ก็เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโมเมนต์นี้ด้วย โดยทั้งคู่ได้โพสต์รีแอคชันหลังได้ฟังเสียงเครื่องยนต์ F1 ที่ฟังดูคล้ายกับเสียงของ สติงค์ เอเนอร์จี้ การมีส่วมร่วมของทั้งคู่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับสิ่งที่หลายคนมองว่าเป็นแค่เรื่องบังเอิญ และแสดงให้เห็นว่านี่คือแคมเปญที่ถูกออกแบบมาอย่างตั้งใจ
แม้จะไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการหรือการทำแบรนด์อย่างชัดเจน ผู้คนก็เริ่มตั้งคำถามในใจว่า หรือว่า สติงค์ เอเนอร์จี้ จะเป็นส่วนหนึ่งของฟอร์มูล่าวันมาตลอด ความคึกคักนี้กระเพื่อมไปถึงการแข่งขันโมนาโกกรังด์ปรีซ์ ที่บรรดาแฟนๆ F1 และอินฟลูเอนเซอร์จากทั่วโลกต่างบันทึกภาพการแข่งขัน พร้อมกับแสดงรีแอคชันเมื่อได้ยินเสียงซิกเนเจอร์ของ สติงค์ เอเนอร์จี้ ปรากฏออกมาอย่างชัดเจนท่ามกลางเสียงคำรามของรถในสนามแข่ง
กระแสความตื่นเต้นได้แพร่กระจายไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ที่แฟนๆ F1 รวมถึง คนดัง เซเลป และอินฟลูเอนเซอร์ หลายคนต่างโพสต์รีแอคชันสุดเซอร์ไพรส์ของพวกเขาขณะฟังเสียงไวรัลจากเครื่องยนต์ F1 และได้ยินเป็นเสียง ‘สติงค์’ จนเกิดเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงบนโซเชียลมีเดีย
อาร์มิน ฟาน บูเรน ดีเจและโปรดิวเซอร์ชื่อดังระดับโลก กล่าวถึงการค้นพบนี้ว่า “ในฐานะแฟน F1 ตัวยง ผมกำลังฟังเสียงเครื่องยนต์ในสตูดิโอ แล้วก็มีเสียงหนึ่งที่สะดุดหู มันฟังดูคล้ายคำว่า ‘สติงค์’ มาก ตอนแรกผมคิดว่าเป็นแค่เรื่องบังเอิญ แต่ยิ่งฟังกลับยิ่งรู้สึกว่ามันมีทำนองชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้ทำให้ผมรู้ว่า แรงบันดาลใจสามารถมาจากที่ที่เราคาดไม่ถึง แม้แต่รถแข่งที่วิ่งอยู่บนสนาม”
เจนสัน บัตตัน แชมป์โลก F1 ประจำปี 2552 กล่าวเสริมว่า “ผมอยู่กับฟอร์มูล่าวันมาทั้งชีวิต ตั้งแต่ในโรงรถจนถึงบนโพเดียม ผมอยู่มาทุกที่และผมคิดว่าผมสัมผัสกับทุกมิติของกีฬานี้แล้ว จนกระทั่งอาร์มิน เปิดคลิปเสียงเครื่องยนต์ให้ฟัง พร้อมชี้ให้ดูว่าเขาได้ยินอะไร ผมถึงกับอึ้ง ผมเปิดฟังอีกครั้ง แล้วมันก็ชัดเจนเลยว่าคือเสียง ‘สติงค์’ จริงๆ มันทั้งแปลกและเจ๋งมาก ที่บางสิ่งที่คุ้นเคยขนาดนี้กลับซ่อนตัวอยู่ตรงหน้าเรามาตลอด และพอได้ยินเสียงนั้นแล้ว คุณจะไม่มีลืมได้อีกเลย”
Vandita Pandey (วันดิตา แพนเดย์) รองประธานฝ่ายการตลาดของ กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มระดับสากล หมวดเครื่องดื่มชูกำลังของเป๊ปซี่โค กล่าวถึงเสียงคำรามนี้ว่า “บางครั้ง ช่วงเวลาที่ทรงพลังที่สุดของแบรนด์ ไม่ได้เกิดจากการวางแผน แต่เกิดจากการค้นพบ นี่ไม่ใช่แค่การเปิดตัวแคมเปญ แต่มันคือการฟังเสียงของวัฒนธรรม และขยายเสียงความรู้สึกที่แฟนๆ มีอยู่แล้วให้ดังกว่าเดิม ความร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่แค่การจับมือเป็นพันธมิตรทั่วๆ ไป แต่มันคือความลงตัวทางเสียงอย่างแท้จริง สติงค์ เอเนอร์จี้ ไม่ได้เพิ่งมาเข้าร่วมกับ ฟอร์มูล่าวัน เราอยู่ตรงนั้นมาตลอด ซ่อนตัวอยู่ในความเร้าใจ แทรกอยู่ในเสียง และตอนนี้ ทั้งโลกก็ได้รับรู้แล้ว แบรนด์จึงก้าวเข้าสู่สนามแข่งอย่างเป็นทางการ พร้อมสร้างประสบการณ์สุดทรงพลังให้แฟนๆ ในอนาคต”
Jonny Haworth (จอนนี่ ฮาเวิร์ธ) ผู้อำนวยการฝ่ายพันธมิตรเชิงพาณิชย์ของฟอร์มูล่าวัน กล่าวว่า “ฟอร์มูล่าวันไม่ใช่แค่เรื่องของความเร็ว แต่มันคืออารมณ์ พลัง และประสบการณ์ที่สัมผัสได้ในทุกการแข่งขัน ความร่วมมือกับ สติงค์ เอเนอร์จี้ ครั้งนี้ถ่ายทอดพลังเหล่านั้นออกมาในรูปแบบใหม่และสร้างสรรค์ มันคือการเฉลิมฉลองพลังของเสียงและการหลอมรวมระหว่างวัฒนธรรมกับกีฬาที่ยังคงสร้างโมเมนต์ที่น่าตื่นเต้นในแบบใหม่ๆ”
ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ สติงค์ เอเนอร์จี้ เตรียมยกระดับประสบการณ์ของแฟนๆ ในทั้ง 21 สนามการแข่งขัน ด้วยกิจกรรมที่ดื่มด่ำ ผลิตภัณฑ์พิเศษ โปรโมชั่น และเรื่องราวที่แบ่งปันทางออนไลน์
สติงค์ เอเนอร์จี้ ฉีกกฎการเป็นสปอนเซอร์แบบเดิมๆ และเลือกสร้างความร่วมมือในแบบที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์ โดยใช้พลังของเสียง เป็นหัวใจหลัก ในโลกของ F1 ที่เสียงเป็นทั้งอารมณ์ พลัง และความเร้าใจ สติงค์ เอเนอร์จี้ ได้เปลี่ยนประสบการณ์ร่วมของบรรดาแฟนๆ ให้กลายเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีวันลืม ภายใต้ความร่วมมือนี้ สติงค์ เอเนอร์จี้ จะยกระดับประสบการณ์ของแฟนๆ ไปอีกขั้น ตลอดทั้ง 21 สนามแข่ง ผ่านกิจกรรมแบรนด์สุดมันส์ สินค้าคอลแลบ โปรโมชันบนบรรจุภัณฑ์ และเรื่องราวคอนเทนต์ในรูปแบบออนไลน์
วันนี้ เป๊ปซี่โค ประกาศความร่วมมือระดับโลกระยะยาวกับ สติงค์ เอเนอร์จี้ ในฐานะเครื่องดื่มชูกำลังอย่างเป็นทางการของการแข่งขันฟอร์มูล่าวัน
เกี่ยวกับ เป๊ปซี่โค
ผลิตภัณฑ์ของ เป๊ปซี่โค ถูกบริโภคมากกว่าหนึ่งพันล้านครั้งต่อวันในกว่า 200 ประเทศและพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก ในปี 2567 เป๊ปซี่โคสร้างรายได้สุทธิราว 92 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขับเคลื่อนโดยกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและอาหารที่สะดวกต่อการบริโภค เช่น Lay’s®, Doritos®, Cheetos®, Gatorade®, Pepsi-Cola®, Mountain Dew®, Quaker® และ SodaStream® กลุ่มผลิตภัณฑ์ของ เป๊ปซี่โค ประกอบไปด้วยอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายประเภทที่คนชื่นชอบ รวมไปถึงแบรนด์ที่โด่งดังหลายแบรนด์ซึ่งแต่ละแบรนด์สร้างรายได้จากยอดขายปลีกเฉลี่ยต่อปีมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์
เป๊ปซี่โค ขับเคลื่อนด้วยวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำระดับโลกด้านเครื่องดื่มและอาหารสะดวกซื้อ ภายใต้กลยุทธ์ pep+ (PepsiCo Positive) ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์แบบครบวงจร ที่ให้ความสำคัญด้านความยั่งยืนและการพัฒนาทุนมนุษย์เป็นศูนย์กลาง เพื่อสร้างคุณค่าและการเติบโตภายใต้กรอบของการดำเนินงานที่ไม่ละเลยขีดจำกัดของโลก และสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อโลกและผู้คน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.pepsico.com และติดตามได้ทาง X (Twitter), Instagram, Facebook และ LinkedIn @PepsiCo
เกี่ยวกับ Formula 1®
การแข่งขัน Formula 1® เริ่มต้นขึ้นในปี 2493และถือเป็นการแข่งขันรถยนต์ที่ทรงเกียรติที่สุดในโลก อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในรายการกีฬาประจำปีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทั่วโลก Formula One World Championship Limited เป็นส่วนหนึ่งขององค์กร Formula 1® โดยถือสิทธิ์ทางการค้าแต่เพียงผู้เดียวในการจัดการแข่งขัน FIA Formula One World Championship™ Formula 1® เป็นบริษัทในเครือของ Liberty Media Corporation (NASDAQ: FWONA, FWONK, LLYVA, LLVYK) ภายใต้กลุ่มหุ้นติดตามผลงานของ Formula One Group โลโก้ F1, โลโก้ F1 FORMULA 1, FORMULA 1, F1, FIA FORMULA ONE WORLD CHAMPIONSHIP, GRAND PRIX, PADDOCK CLUB และเครื่องหมายการค้าอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ล้วนเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของ Formula One Licensing BV ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Formula 1สงวนลิขสิทธิ์ทุกประการ
เกี่ยวกับ อาร์มิน ฟาน บูเรน
อาร์มิน ฟาน บูเรน คือศิลปินผู้เป็นแอมบาสเดอร์ระดับโลกของดนตรีอิเล็กทรอนิกส์มาอย่างยาวนาน ปัจจุบันเขามีอัลบั้มเต็มในชื่อของตัวเองถึง 8 ชุด และยังคงสร้างฐานแฟนเพลงทั่วโลกอย่างต่อเนื่องผ่านรายการวิทยุประจำสัปดาห์ A State of Trance รวมถึงซีรีส์งานอีเวนต์และอัลบั้มที่เข้าถึงผู้ฟังมากถึง 44 ล้านคนจากกว่า 80 ประเทศทั่วโลกในแต่ละสัปดาห์ อาร์มิน ฟาน บูเรน ขึ้นแสดงเป็นเฮดไลเนอร์ในงานเทศกาลดนตรีและเวทีระดับโลกนับร้อยแห่งในแต่ละปี เช่น Electric Daisy Carnival (ลาสเวกัส, นิวยอร์ก), Ultra Music Festival (ไมอามี), Lollapalooza (ชิคาโก) และ Tomorrowland (เบลเยียม) รวมถึงการแสดงประจำที่เกาะอิบิซาและในลาสเวกัส ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เขากลับมาเจอแฟนๆ ผ่านโชว์กว่า 30 งาน รวมถึงโชว์ Feel Again ที่ Ziggo Dome, Ultra Europe, Tomorrowland, Parookaville, Creamfields, Electric Zoo และการแสดงประจำฤดูร้อนที่ Hï Ibiza และ Ushuaïa อาร์มิน มีกำหนดปล่อยอัลบั้มสตูดิโอชุดที่ 9 ซึ่งหลายคนรอคอยมาอย่างยาวนานในเดือนมิถุนายนนี้ ภายใต้ชื่อว่า Breathe
www.arminvanbuuren.com, www.astateoftrance.com, www.armadamusic.com
Amazon Music | Apple Music | Deezer | Discord | Facebook | Instagram | Resident Advisor | SoundCloud | Spotify | Twitch | X | YouTube