บ้านห้วยเป้า พลิกฟื้นจากเกษตรเคมี สู่ชุมชนต้นแบบยั่งยืน ภายใต้แนวทางการพัฒนาแบบโครงการหลวง

เชียงใหม่ – ชุมชนบ้านห้วยเป้า ตำบลทุ่งข้าวพวง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหนึ่งในชุมชนต้นแบบที่ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนผ่านจากวิถีเกษตรเชิงเดี่ยวที่พึ่งพาสารเคมี มาสู่การเกษตรปลอดภัยและยั่งยืน ภายใต้องค์ความรู้โครงการหลวงและงานวิจัยของสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. ซึ่งเข้ามาเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญตั้งแต่ปี 2549


นายวิรัตน์ ปราบทุกข์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง กล่าวว่า ในอดีต บ้านห้วยเป้าเคยประสบปัญหาเรื้อรังจากการปลูกพืชเชิงเดี่ยวอย่างข้าวโพด ซึ่งต้องใช้สารเคมีปริมาณมหาศาล ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของเกษตรกรและทำให้ดินเสื่อมโทรมลงอย่างรวดเร็ว ปัญหานี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ สวพส. เข้ามาทำงานร่วมกับชุมชน เพื่อหาทางออกที่ยั่งยืน ซึ่งการปรับเปลี่ยนที่สำคัญคือการส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาทำ “เกษตรผสมผสาน” ที่มีการสร้างรายได้หลากหลายช่องทาง ทั้งในระยะสั้น กลาง และยาว ไม่ว่าจะเป็นการปลูกผักอินทรีย์ในโรงเรือน, การปลูกพืชผักผลไม้ตามฤดูกาล, ไปจนถึงการปลูกไม้ผลยืนต้นเพื่อสร้างความมั่นคงในระยะยาว

โครงการพัฒนาพื้นที่สูงห้วยเป้า พื้นที่รวม 7 ไร่ แห่งนี้ ได้รับการปรับใช้ตามแนวคิดเกษตรอินทรีย์อย่างจริงจัง โดยมีโรงเรือนทั้งหมด 14 หลัง ใช้ปลูกผักตามฤดูกาล เช่น ผักฮ่องเต้ กวางตุ้ง คะน้า ฯลฯ ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้ทุกวันจะถูกคัดแยก ตัดแต่ง ตั้งแต่เช้าตรู่ และส่งต่อไปยังโรงคัดบรรจุ ห้องเย็น ก่อนขนส่งไปยังปลายทางที่จังหวัดเชียงใหม่ภายในวันถัดไป

ที่นี่ไม่เพียงแค่ปลูกผัก แต่ยังพัฒนา ระบบจัดการขยะอินทรีย์ เช่น การนำเศษผักมาหมักเป็นปุ๋ยธรรมชาติ รวมถึงใช้เป็นอาหารสำหรับไก่ไข่อินทรีย์ ซึ่งเลี้ยงภายในพื้นที่เดียวกัน ไข่ไก่เปลือกขาวสายพันธุ์โครงการหลวงที่ผลิตได้จึงกลายเป็นอีกหนึ่งรายได้ที่มั่นคง และปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค

ทั้งนี้ ระบบน้ำถือเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาพื้นที่เกษตรของบ้านห้วยเป้า โดยชุมชนได้สร้างบ่อน้ำบนพื้นที่สูงขึ้นมา เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ในการเพาะปลูกตลอดปี โดยระบบน้ำนี้เป็นการสูบน้ำจากแม่น้ำปิง ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 1 กิโลเมตร ขึ้นมาเก็บไว้ในบ่อน้ำตื้นบนพื้นที่สูง ผ่านระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) ที่เกษตรกรสามารถดูแลและซ่อมแซมเองได้ ระบบน้ำนี้ช่วยให้มีน้ำเพียงพอสำหรับใช้ในโรงเรือนปลูกผัก และสวนไม้ผลตลอดทั้งปีโดยไม่ต้องพึ่งพาไฟฟ้าจากภายนอก

หัวใจสำคัญของโครงการคือการเปลี่ยนทั้งวิธีคิดและวิถีการผลิต เรามองปัญหาทั้งในมิติสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และหนี้สิน เราจึงเน้นการสร้างอาชีพที่ยั่งยืนและตอบโจทย์ในระยะยาว และหนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จ คือ สามารถเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่สูงห้วยเป้า
นายสุคำ ขัตหลง เกษตรกรตัวอย่างผู้ร่วมโครงการในพื้นที่เล่าให้ฟังว่า  เมื่อก่อนทำข้าวโพด 10 ไร่ ได้เงินไม่ถึงแสน แต่พอเปลี่ยนมาทำผักอินทรีย์ ไม้ผล เลี้ยงไก่ไข่และไก่กระดูกดำ รายได้เพิ่มขึ้น 5-10 เท่า ที่สำคัญคือไม่ต้องเจอสารเคมีอีก สุขภาพก็ดีขึ้น นอกจากรายได้จากผลผลิตสดแล้ว ชุมชนยังพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูป เช่น น้ำมันมะตะแบก ซึ่งผลิตโดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เป็นอีกช่องทางสร้างมูลค่าเพิ่ม และเสริมรายได้ให้มั่นคง รวมทั้ง การพัฒนาโรงเรือนก็เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มจากโรงไม้ราคาประหยัด ก่อนขยับขยายไปสู่โรงเรือนเหล็กที่ทนทานขึ้นตามกำลังการลงทุน เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่สะท้อนการวางแผนพัฒนาที่ยั่งยืน

บ้านห้วยเป้าจึงไม่ใช่แค่ตัวอย่างของการ “เปลี่ยนพืช” แต่คือการ “เปลี่ยนชีวิต” ของคนทั้งชุมชน ภายใต้แนวคิดการพัฒนาพื้นที่สูงตามแนวทางโครงการหลวง ที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถสร้างความยั่งยืนได้จริง ทั้งในมิติของชีวิต เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และการอยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูล คนอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างยั่งยืน

Spread the love
fuckidols.com sexy blonde creampie pov.
i was reading this https://banglachotixxx.me/
error: Content is protected !!