ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป จับตานโยบายรัฐ “คนละครึ่ง 2568” และ “ทัวร์ไทยคนละครึ่ง” หนุนแรงซื้อกระตุ้นไฮซีซัน Q4 พร้อมเดินหน้าลงทุนขยายโอกาสธุรกิจ
ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป (ONYX Hospitality Group) บริษัทบริหารจัดการชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้านการบริหารจัดการโรงแรม รีสอร์ต เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และที่พักอาศัยระดับหรู โดยมีแบรนด์ภายใต้การดูแล อาทิ อมารี (Amari) โอโซ่ (OZO) ชามา (Shama) และโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ (Oriental Residence) เผยการจับตาความเป็นไปได้ของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ อาทิ “คนละครึ่ง 2568” และ “ทัวร์ไทยคนละครึ่ง” ซึ่งคาดว่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการหนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ไฮซีซันไตรมาส 4
นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป กล่าวว่า ช่วงปลายปีถือเป็นโค้งสำคัญของผู้ประกอบการท่องเที่ยว โดยทุกฝ่ายต่างเตรียมกลยุทธ์และโปรโมชันเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ หากมาตรการดังกล่าวมีการประกาศใช้จริง จะช่วยเพิ่มกำลังซื้อ กระตุ้นการเดินทางภายในประเทศ และสร้างบรรยากาศท่องเที่ยวที่คึกคักรับไฮซีซันที่กำลังจะมาถึงนี้
“สำหรับ ออนิกซ์ฯ เรามองว่ามาตรการเหล่านี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ตลาดนักท่องเที่ยวไทย สร้างสมดุลกับตลาดต่างชาติ และเปิดโอกาสให้โรงแรมได้เชื่อมโยงกับลูกค้าในประเทศมากขึ้น โดยทางออนิกซ์ฯ เองได้เตรียมแผนส่งเสริมการตลาดที่สามารถต่อยอดได้ทันทีที่นโยบายถูกประกาศใช้ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้” นายยุทธชัย กล่าว
นอกจากนี้ ออนิกซ์ฯ เชื่อว่าภาพรวมอุตสาหกรรมโรงแรมในช่วงปลายปี 2568 ต่อเนื่องสู่ปี 2569 จะมีทิศทางเชิงบวก ภายใต้มาตรการภาครัฐและนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ทยอยออกมา ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยขับเคลื่อนการเดินทาง แต่ยังสอดคล้องกับเป้าหมายของ ททท. ในการสร้างความสมดุลระหว่างตลาดต่างชาติและตลาดในประเทศ รวมถึงการกระจายรายได้สู่ผู้ประกอบการท้องถิ่นและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
“อนาคตของการท่องเที่ยวไทยไม่ได้จำกัดเพียงการเดินทางเพื่อพักผ่อนเท่านั้น แต่กำลังก้าวสู่การเป็น Premium Destination ที่นักท่องเที่ยวจะได้รับทั้งประสบการณ์ที่น่าจดจำและการเรียนรู้วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ไปพร้อมกัน ขณะเดียวกัน ความต้องการของนักเดินทางก็มีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งรวมถึงความต้องการในเข้าพักระยะยาวมากขึ้น เพื่อสนับสนุนการทำงาน รวมถึงการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health Tourism) ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ออนิกซ์ฯ จึงมุ่งเดินหน้าลงทุนทั้งด้านการตลาด การบริการ และการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อยกระดับประสบการณ์ผู้เข้าพัก ควบคู่ไปกับการยกระดับที่พักให้แข่งขันและตอบสนองความต้องการของตลาดนักเดินทางยุคใหม่ได้อยู่เสมอ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการสร้างมาตรฐานความยั่งยืนร่วมกับพันธมิตรในหลายด้าน ล่าสุดได้ริเริ่มการคัดสรรวัตถุดิบพรีเมียมจากเกษตรกรท้องถิ่นที่ยึดมั่นในหลักการผลิตอย่างยั่งยืน เพื่อนำมารังสรรค์เมนูอาหารที่ประณีตและเปี่ยมด้วยความหมาย แขกผู้เข้าพักจึงไม่เพียงได้สัมผัสรสชาติที่เลอค่า แต่ยังได้ดื่มด่ำกับเรื่องราวความหรูหราที่เชื่อมโยงกับท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง
ทั้งนี้ หากมีมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐออกมาในช่วงปลายปี เชื่อว่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยเร่งให้เทรนด์เหล่านี้ขยายตัวได้เร็วขึ้น และสร้างสมดุลระหว่างตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวไทยอย่างมีคุณภาพ” นายยุทธชัย กล่าวทิ้งท้าย
ปัจจุบัน ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป บริหารโรงแรม รีสอร์ต และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ภายใต้ 4 แบรนด์หลัก ครอบคลุมทั้งในประเทศไทย มาเลเซีย จีน ฮ่องกง บังกลาเทศ ศรีลังกา และ สปป.ลาว พร้อมแผนขยายพอร์ตโฟลิโอให้ได้ มากกว่า 75 แห่งภายในปี 2573 เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายการเป็น “The Best Medium-sized Hospitality Management Company in Southeast Asia”